หลายๆคนอาจเคยสงสัยว่าประกันชีวิตดียังไง ทำไมถึงต้องทำ แล้วถ้าไม่ทำจะเป็นผลดีหรือผลเสียอย่างไรวันนี้ผมจะอธิบายให้ท่านทราบว่าทำไมคนเราถึงต้องทำประกันชีวิต สิ่งที่ผมจะนำเสนอวันนี้จะตอบเพียงว่าทำไมต้องทำประกันชีวิต แต่สิ่งอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับประกันชีวิตผมจะนำเสนอในคราวต่อๆไป

ทำไมต้องทำประกันชีวิต ?

1. อายุสั้นเกินไป บางครั้งสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับเราได้ตลอดเวลา บางคนดูแลสุขภาพตัวเองอย่างดีเยี่ยม ออกกำลังกายทุกวัน แต่เคยคิดบ้างมั้ยว่าถ้าเกิดเราวิ่งอยู่ดีๆ มีขี้เมาขับรถมาชนเราขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้เหตุการณ์เหล่านี้จะไม่ได้เกิดขึ้นกับคนทุกคน แต่ก็มีคนไม่น้อยที่เคยประสบกับเหตุกาณ์อันไม่คาดฝันเช่นนี้มาแล้ว เราต้องไม่ลืมว่าในชีวิตของเรานั้นเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ทุกคนล้วนมีครอบครัว ยิ่งคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวยิ่งต้องมีภาระรับผิดชอบมากขึ้น แล้วถ้าเราต้องเป็นผู้โชคร้ายเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันล่ะ ท่านเคยคิดหรือไม่ว่า คนข้างหลังเราจะอยู่ยังไง หากครอบครัวเรามีฐานะร่ำรวยก็คงไม่ต้องกังวลมากนัก แต่ก็ไม่เสมอไป อย่างคนที่เคยรวยมีเงินทองใช้มากมาย หาเงินเก่งมาก เลี้ยงครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยม จนคนในครอบครัวแทบจะลืมไปเลยว่าความลำบากมันเป็นอย่างไร บางครอบครัวสามีเป็นคนหาเงิน ภรรยาทำงานบ้านอย่างเดียว หากขาดหัวหน้าครอบครัวไปภาระที่ต้องหาเลี้ยงดูครอบครัวย่อมหนีไม่พ้นต้องตกเป็นของคุณแม่บ้านอย่างแน่นอน แล้วถ้าเกิดว่าระหว่างนั้นยังมีภาระที่ต้องผ่อนชำระบ้าน รถ หรืออะไรก็ตามที่ต้องใช้เงินมากๆล่ะ แล้วถ้ายิ่งโชคร้ายต้องเลี้ยงดูลูกที่อายุยังน้อยอีก ยิ่งทำให้เกิดความยุ่งยากในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น การทำประกันชีวิตสามารถแบ่งเบาภาระตรงนี้ได้ อย่างน้อยที่สุดก็ยังทำให้คนข้างหลังเราได้มีค่าใช้จ่ายเพื่อตั้งหลักไปซักระยะหนึ่งหรือบางรายที่ทำประกันที่ทุนประกันสูงมาก ก็จะช่วยให้ครอบครัวใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่การล้อมคอกก่อนที่วัวจะหายคงจะเป็นการดีกว่า เพราะหากว่าเราไม่เป็นผู้โชคร้ายเราก็จะกลายเป็นผู้โชคดีที่มีความสุขในบั้นปลายของชีวิต เนื่องจากเงินที่เราจ่ายไปเราจ่ายไปเป็นเบี้ยประกันในวันนี้จะกลับกลายเป็นเงินที่ให้เราใช้จ่ายในอนาคต เมื่อเราอยู่จนครบกำหนดสัญญานั่นเอง

2. อยู่นานเกินไป บางคนโชคร้ายที่ต้องจากไปก่อนวัยอันควร แต่คนที่ได้ใช้ชีวิตอยู่บางโลกนี้นานๆบางครั้งก็ไม่ใช่ผู้โชคดีเสมอไป เพราะถ้าหากเราอายุยืนแต่เราไม่มีการเตรียมพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตในยามแก่ชรา ก็จะเกิดปัญหายุ่งเหยิงขึ้นกับชีวิตของเราได้ หลายคนอิจฉาคนที่อายุยืน แต่ใครจะรู้ว่าคนอายุยืนบางคนอาจนั่งอิจฉาคนที่จากไปแล้วก็ได้ ถ้าหากเขาต้องอยู่อย่างลำบากในบั้นปลายชีวิต การเตรียมพร้อมเรื่องการเงินก่อนถึงวัยเกษียณนั้นสำคัญมาก เพราะถ้าเราไม่ได้เก็บเงินไว้ใช้ตอนแก่เลยเราจะกลายเป็นคนแก่ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาก จากสถิติปัจจุบันคนไทยมีอายุยืนขึ้น แสดงให้เห็นว่าเราจะต้องใช้ชีวิตบนโลกนี้นานขึ้น และสถิติยังบอกอีกว่าเงินที่เราหามาได้ทั้งหมดในชีวิตนี้มากถึง60% จะต้องหมดไปกับค่ารักษาพยาบาลในช่วง5ปีสุดท้ายของชีวิต จะเห็นได้ว่ายิ่งเราอายุมากขึ้น เรายิ่งจำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้น หากวันนี้ที่เรายังหาเงินได้ทุกเดือนอย่างไม่ลำบากมากนัก การใช้จ่ายเงินแบบเดือนชนเดือนโดยไม่ได้มีการออมเลยคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับบางคน แต่ถ้าเกิดว่าท่านต้องกลายเป็นผู้โชคร้ายบนความโชคดี ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้อย่างยาวนานแต่ต้องทนอยู่ด้วยความยากลำบากล่ะ ถึงตอนนั้นท่านจะโทษผู้อื่นก็คงเป็นไปไม่ได้ และมันอาจจะสายเกินแก้ไข ไม่แน่ว่าท่านอาจต้องไปเป็หนึ่งในสมาชิกของบ้านพักคนชราดังที่เราได้เห็นกันในโทรทัศน์ หรือถ้าโชคร้ายกว่านั้นท่านอาจได้เป็นดาราตอนแก่ แต่เป็นดาราในรายการวงเวียนชีวิตก็เป็นได้ ก่อนที่จะเกิดสิ่งไม่คาดฝันกับเรา เราควรที่จะสร้างนิสัยที่ป้องกันความเสี่ยงเสียตั้งแต่วันนี้ นำเงินที่หาได้วันนี้เก็บออมเพื่อไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในอนาคตกันเถอะ ถ้าท่านยังไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ประกันชีวิตเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยท่านได้ทั้งความมั่นคงทางด้านการเงิน ด้านชีวิตและสุขภาพ และยังให้ผลตอบแทนกับเงินที่ท่านจ่ายไปทุกบาททุกสตางค์ นับว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามาก สำหรับทุกคนที่ต้องการความมั่นคงในชีวิต

3. ตายทั้งเป็น ตายทั้งเป็นคืออะไร ? คำตอบก็คือ การมีชีวิตอยู่แต่ขาดความสามารถในการดูแลตนเอง ไม่สามารถประกอบอาชีพการงานได้ดังปกติ หรือที่ภาษาทางกฎหมาย เรียกว่า ตกเป็นบุคคลทุพพลภาพนั่นเอง คงไม่มีใครที่อยากเป็นบุคคลทุพพลภาพ แต่ก็มีคนมากมายที่กลายเป็นบุคคลทุพพลภาพ ปัญหาของการตายทั้งเป็นนั้น คือ การที่เราไม่สามารถช่วยตนเองได้เท่าที่ควรจะเป็น ต้องกลายเป็นภาระของครอบครัว หากท่านเป็นผู้หารายได้ยิ่งทำให้ครอบครัวขาดรายได้ ในเมื่อรายได้ไม่มีแต่รายจ่ายกลับไม่ได้ลดลงแต่ยิ่งเพิ่มขึ้น การทำประกันชีวิตถือว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดสำหรับปัญหานี้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านทำประกันชีวิตที่มีการประกันทุพพลภาพไว้แล้วต้องโชคร้ายตกเป็นผู้ทุพพลภาพ ประกันที่ท่านทำไว้จะจ่ายค่าทดแทนให้ท่านเพื่อชดเชยการที่ท่านไม่สามารถทำงานได้เหมือนปกติ โดยจะจ่ายให้เป็นงวดๆไป

ความเป็นจริงแล้วคงไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องกลายเป็นบุคคลที่ตายทั้งเป็น แต่การป้องกันไว้ก่อนปัญหาจะเกิดคงจะไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร